วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การชะลอการแก่ของผิว

การแก่เกิดขึ้นในวินาทีแรกของการมีชีวิต เซลจะเริ่ม เสื่อมและตายลง และมีวิธี ชะลอ แก่ ผิว  ความสวยความงาม การแทนที่ด้วยเซลใหม่ เซลบางชนิดมีอายุสั้นมากเช่น เซลเม็ดเลือดแดงมีอายุเพียง เจ็ดวัน เซลผิวหนังมีอายุประมาณ หนึ่งเดือน เซลล์เนื้อเยื่อ และพังผืดมีอายุประมาณ สิบห้าปี มีเซลเพียงสองชนิดเท่านั้นที่มีอายุเท่ากับอายุจริงของเรา คือเซลสมอง และเลนส์ตา แล้วทำไมเราจึงดูแก่ขึ้นได้ หากเซลผิวหนัง และเนื้อเยื่อมีการสร้างทดแทนอยู่ตลอดเวลา

เหตุผลที่สำคัญคือ เซลที่สร้างใหม่ทดแทน จะมีการทำงานที่ลดน้อยลง หรือเปลี่ยนแปลงไป อย่างช้าๆ ตัวอย่าง เช่น เซลไฟโบรไชท์ ที่สร้างเส้นใยคลอราเจน จะสร้างคลอราเจนใหม่แทนที่ของเดิม ในอัตราลดลงประมาณ 1 % ต่อปี เราจึง มีผิวหนังแท้ และเส้นใยพังผืด ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทำให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ ลดน้อยลง เมื่อการสูญเสียมากถึงระดับหนึ่ง เช่นเสียไป เกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่ออายุมากกว่าสามสิบปี เราจะเริ่มเห็น ผิวหนังในหลายตำแหน่ง จึงเริ่มหย่อนคล้อยไปตามแรงดึงดูดของโลก

ซึ่งทำหน้าที่เหมือนฟิล์มกรองแสง อัลตร้าไวโอเลท และสารแปลกปลอม และมลพิษทั้งหลาย หลังจากเวลาผ่านไป จะเห็นการเปลี่ยนแปลง เกิดการบางตัว ผิวแห้งแตก มีรอยด่างดำ เกิดรอยย่นเล็กๆ และมีการขยายตัวของเส้นเลือดฝอย เกิดติ่งเนื้อ หรือเนื้องอก แม้กระทั่งมะเร็งผิวหนัง การ เปลี่ยนแปลงนี้จะเห็นได้มากบริเวณที่ถูกแสงแดด และ คนผิวสีขาว จะมีการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าสีผิวเข้ม การเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นผลจากการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดการเสื่อมลงของเซลแทบทุกชนิด

การลดการเกิดอนุมูลอิสระ ที่สำคัญ คือ

1.หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัด หากจำเป็นต้องออกแดด ควรสวมหมวกปีกกว้าง หรือกางร่ม หากออกกำลังกลางแดด ควรใช้ครีมกันแดด ที่สามสารถกรองได้ทั้ง อัลตร้าไวโอเลท เอ (มีค่า PPD มากกว่า +++) และอัลตร้าไวโอเลท บี (ค่า SPF, Sun protecting factor มากกว่า มากกว่า 30) ต้องทาประมาณ สามสิบนาทีก่อนออกแดด และ ทาปริมาณที่เหมาะสม (บีบยา ประมาณ สองกรัม หรือหนึ่งข้อนิ้วชี้ ต่อแก้มหนึ่งข้าง)

2.ลดการแห้งแตกของผิว ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบ ด้วยการใช้ สบู่อ่อน หรือครีมอาบน้ำ และทา โลชั่นลดความแห้งหลังอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอ

3. งดบุหรี่ และหลีกเลี่ยงสถานที่มีควันบุหรี่สูง

4. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มี ควันรถยนต์ และมลพิษสูง เช่น ริมถนน ที่จราจรหนาแน่น

5. ลดอาหารที่มีอนุมูลอิสระสูง เช่นน้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำ

6.การรับประทานอาหารที่มีสารจับอนุมูลอิสระ ที่สำคัญคือ ไวตามินซีธรรมชาติ ในผลไม้และผักสีเขียว เช่น ฝรั่ง แอปเปิล ผักสลัด ฯลฯ ให้เพียง พอ และสม่ำเสมอ ไวตามินซี จะทำงานได้ดีร่วมกับไวตามินอี ซึ่งมีในไข่ เนื้อสัตว์ จึง ควรรับประทานอาหารให้สมดุลทุกหมู่ ไวตามินซีถูกทำลายได้เร็วด้วยความร้อน จึงควรเลือกรับประทานเฉพาะผลไม้สด น้ำผลไม้ที่คั้นสด และผักสด

7. ลดความเครียด จากปัญหาต่างๆ ฝึกจิตให้สงบ เช่นการฝึกสมาธิ เล่นกีฬา หรือมีงานอดิเรกที่ผ่อนคลายทำ อย่างสม่ำเสมอ

8.การใช้เวชภัณฑ์ ลดอนุมูลอิสระ เช่น การกินไวตามินซี ไวตามินอี สารบางชนิด เช่น โค เอนไซย์คิวเทน ฯลฯ เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูง จึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วอย่างชัดเจน เวชภัณฑ์ ที่อ้างว่าชะลอความแก่ได้นั้นมีมาก แต่มีการศึกษายืนยันว่ามีประโยชน์มีไม่มาก บางชนิด มีการกล่าวอ้างเกินจริง เช่น การรับประทานยาที่มีคลอราเจน โดยหวัวว่าจะไปทดแทนคลอราเจนที่ลดลง โดยหารู้ไม่ว่า กระบวนการย่อยสลายในระบบทางเดินอาหาร จะย่อยสลายคลอราเจนที่กินเข้าไปเป็นกรดอะมิโน ก่อนจะส่งไปทางกระแสเลือดเพื่อสร้างคลอราเจน การกิน คลอราเจนจึงไม่ได้มีผลต่างจากการกินโปรตีนเช่น เนื้อสัตว์ ไข่ขาว นมถั่วเหลือง ฯลฯ

9. การทาเวชสำอาง ที่มีสารลดอนุมูลอิสระ เข่น ไว ตามินซี ฟลูเรอรีน (Fullerene) หรือสารกระตุ้นการเจริญของเซลล์ เช่น อนุพันธ์ ไวตามินเอ (Retinoic acid) เป็นวิธีที่สิ้นเปลือง และ ควรได้รับการแนะนำจากแพทย์ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อน

การลดการสะสมไขมัน ได้แก่

1.การรับประทานอาหาร ให้ได้พลังงานเหมาะสมสำหรับ แต่ละวัย อายุมากขึ้นความต้องการพลังงานจะลดลง และการกระจายพลังงานให้เหมาะสมในแต่ละวัน อาหารเช้า เป็นมื้อสำคัญ ควรได้พลังงาน ประมาณ 40% มื้อกลางวัน 40% และ มื้อเย็น 20% คนส่วนใหญ่จะรับประทานอาหาร สวนกับความต้องการพลังงานในแต่ละช่วง การรับประทานอาหารมื้อเย็นมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของไขมันทำให้อ้วน และมีปัญหาสารพัดตามมา

2. ลดการรับประทานไขมันจากพืช และน้ำมันพืชที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเช่นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันรำ

3. เพิ่มปริมาณอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ข้างกล้อง ผัก ผลไม้ที่ไม่หวานจัด

4. ลดอาหารประเภท แป้งและ น้ำตาลลง เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่มหรือ ชากาแฟผสมน้ำตาล

5. การออกกำลังกาย อย่างน้อย สามสิบนาทีสัปดาห์ละสามครั้ง

สำหรับการแก้ไขปัญหา จากความแก่ เช่น รอยย่น ความหย่อนยานของผิว ไขมันสะสม และสีผิวผิดปกติ ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ด้านเวชสำอางใน ปัจจุบัน สามารถทำให้ เราดูอ่อนวัยลงได้ โดยไม่ยุ่งยากและสิ้นเปลืองเกินไปจะได้กล่าวถึง เป็น เรื่องๆไปตอนต่อๆไป

ขอบคุณเนื้อหาดีดี จาก โรงพยาบาลเจ้าพระยา

และ Women MThai

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง SAL F+APP ESSENCE

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หรอย เปิดบริการรับฝากขายนาฬิกา (Hroyy Trust)

บริการรับฝากขาย Hroyy Trust Hroyy Marketplace เปิดบริการใหม่รับฝากขายนาฬิกา!!
ท่านเคยมีปัญหาปวดหัวเรื่องขายสินค้าไม่ได้หรือไม่? บริการ Hroyy Trust คือการบริการที่ท่านสมาชิกต้องการขายสินค้าแต่ไม่ชำนาญในการขายสินค้า และทำตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อเราเพื่อนำสินค้าฝากเราขาย โดยเราจะเป็นคนถ่ายรูปให้ รับรองความถูกต้องของสินค้าทั้งหมด โดยรับประกันให้ว่าผู้ซื้อจะได้รับของที่ถูกต้องตามโฆษณาทุกประการ พร้อมทำการตลาดออนไลน์ให้ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับผู้ขายที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า สามารถใช้บริการ Hroyy Trust ได้ดังนี้ครับ
- ผู้ขายต้องส่งสินค้ามาให้ทาง Hroyy Marketplace ด้วยวิธีการ EMS หรือมาส่งสินค้าด้วยตนเองเท่านั้น
- ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกากว่าสิบปีของ Hroyy Marketplace จะทำการประเมินสภาพของสินค้า และราคาตลาดที่ยุติธรรม
- เราจะตกลงกับท่านสำหรับราคาขายที่ท่านพอใจ และค่าธรรมเนียมในการขาย
- Hroyy Marketplace จะประกาศขายสินค้าให้ท่านในนามของเรา และเราจะทำการตลาดให้ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์
- ภายหลังจากตกลงซื้อขายผ่านระบบได้แล้ว Hroyy Marketplace จะส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อจะต้องโอนเงินมาก่อน
- Hroyy Marketplace จะส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อจะมีเวลาโต้แย้งภายในเวลา 48 ชั่วโมง ภายหลังจากการรับสินค้าแล้ว
- Hroyy Marketplace จะโอนเงินให้กับผู้ขายทันที หลังจากที่ไม่ได้รับการโต้แย้งจากผู้ซื้อ โดยจะโอนเงินให้เต็มจำนวนที่ได้ตกลงกับท่านไว้

สนใจสอบถามหรือมีข้อสงสัย โปรดติดต่อ 0818269069 หรืออีเมล์ info@hroyy.com


ทำไมต้อง Hroyy Trust?

- ท่านจะมีโอกาสในทางการตลาดในการขายสินค้าในราคาที่พึงพอใจ โดยสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ที่ให้คำปรึกษากับหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจขนาดใหญ่ และ SMEs
- สินค้าของท่านจะถูกโฆษณาในสื่อออนไลน์ต่างๆ แม้แต่ในผลการค้นหา (search) บนหน้าแรกของ Google
- ลูกค้าจะมีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าของท่าน เนื่องจากสินค้าของท่านจะได้รับการประเมินและรับรองคุณภาพด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาที่มีประสบการณ์ในวงการมากกว่า 10 ปี
- ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องหยุมหยิม เช่น การถ่ายรูป การเขียนประกาศขาย การติดตามการจ่ายเงินของลูกค้า เนื่องจากเราดำเนินการให้ตั้งแต่ต้นจนครบวงจร

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความเป็นมาของนาฬิกานักบิน

ผู้อ่านหลายท่านหรือนักสะสมนาฬิกา อาจจะเคยได้ยินคำว่านาฬิกานักบิน ก็อาจจะสงสัยว่านาฬิกานักบิน (Pilot Watch) ต่างกับนาฬิกาข้อมือทั่วไปอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาคุยกันครับ

นาฬิกานักบิน หรือ Pilot Watch เดิมเค้าเรียกชื่อว่า Observation Watch ซึ่งเริ่มใช้กันในกองทัพอากาศเยอรมันในช่วงทศวรรษ 1930 โดยใช้ในภารกิจการบินของกระทรวงการบิน หรือ Reichs-Luftfahrt-Ministerium (ministry for aviation) เป็นหลัก โดยการใช้นาฬิกาข้อมือแบบนักบินนี้ เพื่อให้ทหารอากาศที่ออกไปปฏิบัติภารกิจสามารถปฏิบัติงานได้ตามแผนที่กำหนด ไว้ โดยก่อนจะออกปฏิบัติภารกิจจะต้องมาซักซ้อมแผนการณ์ และกำหนดเวลาในการปฏิบัติการที่สอดคล้องกัน ดังนั้นนาฬิกาที่ใช้จะต้องตั้งนาฬิกาให้ตรงกัน โดยลงความแม่นยำลงในระดับวินาที คำถามคือทำไมต้องใช้นาฬิกาและการกำหนดเวลาในการปฏิบัติภารกิจ ทำไมไม่ใช้วิทยุสื่อสารคุยกันไม่ง่ายกว่าหรือ คำตอบคือการใช้วิทยุสื่อสารคุยกันนั้นจะมีจุดรั่วไหลคือข้าศึกจะสามารถ ดักฟังการพูดคุยได้ และทำให้แผนรั่วไหล

ดังนั้นกระทรวงการบินเยอรมันจึงได้กำหนด Spec ของนาฬิกานักบินไว้ดังนี้
- หน้าปัดจะต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นได้ง่าย
- ที่เลข 12 ของหน้าปัดจะไม่ใช่เลข 12 แต่เป็นรูปสามเหลี่ยม


- ไม่มียี่ห้อติดไว้ที่หน้าปัด
- พรายน้ำจะต้องสว่าง

- เข็มวินาทีจะต้องอยู่ตรงกลางเท่านั้น
- มีหมายเลขของนาฬิกาสลักไว้ข้างๆ เช่น FLXXXX
- และที่สำคัญคือ นาฬิกาจะต้องเดินตรง (อันนี้ไม่หมูนะครับสำหรับนาฬิกากลไกในสมัยสงครามโลก เนื่องจากเป็นนาฬิกากลไกไม่ใช่นาฬิกาใส่ถ่านหรือนาฬิกาควอซ)

ในขณะนั้นกระทรวงการบินเยอรมันได้สั่งนาฬิกานักบิน หรือ Pilot Watch หรือ Observation Watch จากบริษัทจำนวน 5 บริษัท คือ Laco, IWC, Lange & Sohne, Wempe และ Stowa โดยกระทรวงการบินของเยอรมันได้รับรองให้ผลิตนาฬิกาสำหรับนักบินของกองทัพ อากาศเยอรมัน (B-Uhr) ซึ่งนาฬิกาสำหรับนักบินนั้นจะมีขนาดใหญ่ 55 mm เพื่อใช้สวมทับไปบนแจ๊คเก็ทนักบินได้เลย โดย Laco เป็นนาฬิกาที่กระทรวงการบินสั่งให้ผลิตให้กับนักบินรบมากที่สุด



ข้างต้นนับว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีพื้นฐานในการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งนาฬิกานักบินจึงเป็นสิ่งที่นักสะสมทั่วโลกชื่นชอบในประวัติศาสตร์ของตัว มันเอง

ความเป็นมาของนาฬิกานักบิน

ผู้อ่านหลายท่านหรือนักสะสมนาฬิกาอาจจะเคยได้ยินคำว่านาฬิกานักบิน ก็อาจจะสงสัยว่านาฬิกานักบิน (Pilot Watch) ต่างกับนาฬิกาข้อมือทั่วไปอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาคุยกันครับ

นาฬิกานักบิน หรือ Pilot Watch เดิมเค้าเรียกชื่อว่า Observation Watch ซึ่งเริ่มใช้กันในกองทัพอากาศเยอรมันในช่วงทศวรรษ 1930 โดยใช้ในภารกิจการบินของกระทรวงการบิน หรือ Reichs-Luftfahrt-Ministerium (ministry for aviation) เป็นหลัก โดยการใช้นาฬิกาข้อมือแบบนักบินนี้ เพื่อให้ทหารอากาศที่ออกไปปฏิบัติภารกิจสามารถปฏิบัติงานได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยก่อนจะออกปฏิบัติภารกิจจะต้องมาซักซ้อมแผนการณ์ และกำหนดเวลาในการปฏิบัติการที่สอดคล้องกัน ดังนั้นนาฬิกาที่ใช้จะต้องตั้งนาฬิกาให้ตรงกัน โดยลงความแม่นยำลงในระดับวินาที คำถามคือทำไมต้องใช้นาฬิกาและการกำหนดเวลาในการปฏิบัติภารกิจ ทำไมไม่ใช้วิทยุสื่อสารคุยกันไม่ง่ายกว่าหรือ คำตอบคือการใช้วิทยุสื่อสารคุยกันนั้นจะมีจุดรั่วไหลคือข้าศึกจะสามารถดักฟังการพูดคุยได้ และทำให้แผนรั่วไหล

ดังนั้นกระทรวงการบินเยอรมันจึงได้กำหนด Spec ของนาฬิกานักบินไว้ดังนี้
- หน้าปัดจะต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นได้ง่าย
- ที่เลข 12 ของหน้าปัดจะไม่ใช่เลข 12 แต่เป็นรูปสามเหลี่ยม


- ไม่มียี่ห้อติดไว้ที่หน้าปัด
- พรายน้ำจะต้องสว่าง

- เข็มวินาทีจะต้องอยู่ตรงกลางเท่านั้น
- มีหมายเลขของนาฬิกาสลักไว้ข้างๆ เช่น FLXXXX
- และที่สำคัญคือ นาฬิกาจะต้องเดินตรง (อันนี้ไม่หมูนะครับสำหรับนาฬิกากลไกในสมัยสงครามโลก เนื่องจากเป็นนาฬิกากลไกไม่ใช่นาฬิกาใส่ถ่านหรือนาฬิกาควอซ)

ในขณะนั้นกระทรวงการบินเยอรมันได้สั่งนาฬิกานักบิน หรือ Pilot Watch หรือ Observation Watch จากบริษัทจำนวน 5 บริษัท คือ Laco, IWC, Lange & Sohne, Wempe และ Stowa โดยกระทรวงการบินของเยอรมันได้รับรองให้ผลิตนาฬิกาสำหรับนักบินของกองทัพอากาศเยอรมัน (B-Uhr) ซึ่งนาฬิกาสำหรับนักบินนั้นจะมีขนาดใหญ่ 55 mm เพื่อใช้สวมทับไปบนแจ๊คเก็ทนักบินได้เลย โดย Laco เป็นนาฬิกาที่กระทรวงการบินสั่งให้ผลิตให้กับนักบินรบมากที่สุด

ข้างต้นนับว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีพื้นฐานในการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งนาฬิกานักบินจึงเป็นสิ่งที่นักสะสมทั่วโลกชื่นชอบในประวัติศาสตร์ของตัวมันเอง